วิธีจัดแจกันดอกไม้แต่งบ้านง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

วิธีจัดแจกันดอกไม้แต่งบ้านง่ายๆ

การจัดแจกันดอกไม้ถือเป็นศิลปะอีกแขนง ที่ช่วยทำให้บ้านน่าอยู่ ไม่ว่าจะนำไปวางตามมุมห้อง หรือบนโต๊ะไหนๆ ก็สร้างความสดชื่นได้มากเลยทีเดียว และยังสามารถสร้างความประทับใจให้แก่เพื่อนบ้านหรือญาติพี่น้องที่มาเยี่ยม ช่วยสร้างบรรยากาศการพูดคุย การทานอาหารร่วมโต๊ะให้ดูมีชีวิตชีวา ราบรื่นมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นร้านขายดอกไม้ออนไลน์ Fruit N Floraจึงมีวิธีการจัดแจกันดอกไม้ง่ายๆ มาฝากค่ะ แถมเคล็ดลับการยืดอายุดอกไม้ให้หอมยาวนานมากขึ้นไปอีก

1. การเลือกดอกไม้ที่มีสีเดียวกันหรือเหมือนกัน

การจัดดอกไม้ควรจะเริ่มจากการเลือกดอกไม้ในสีโทนเดียวกัน หากเป็นดอกไม้ต่างชนิดกันก็จะยิ่งทำให้ช่อดอกไม้ที่จัดดูมีมิติและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ดอกกุหลาบสีม่วงอ่อน ดอกโบตั๋นสีม่วงอมสีชมพู และตัดโทนด้วยใบไม้สีเขียวหรือดอกไม้สีขาวขนาดเล็ก แค่นี้ช่อดอกไม้ก็จะดูสวยขึ้นมาทันทีค่ะ

Figure 1https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

2. นำดอกไม้ไปแช่น้ำ

ไม่ว่าคุณจะตัดดอกไม้สด ๆ มาจากต้นหรือซื้อมาจากร้านค้า ทันทีที่นำดอกไม้กลับมาถึงบ้าน ให้นำดอกไม้ไปแช่ในถังที่มีน้ำสูงประมาณ 1 นิ้ว เติมสารกันเหี่ยวเฉาลงไปเล็กน้อย เพื่อรักษาความสดใหม่ให้ดอกไม้ดูสดชื่นอยู่ตลอดเวลา ส่วนเรื่องอุณหภูมิของน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน หากน้ำที่นำมาแช่เป็นน้ำอุ่น ดอกไม้จะไม่บาน อย่างเช่น ดอกกุหลาบและดอกบัตเตอร์คัพ แต่ถ้าแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิปกติไว้ประมาณ 1 วัน หรือ 2 วัน ดอกไม้ก็จะบานพร้อมนำไปจัดช่อดอกไม้

Figure 2http://oknation.nationtv.tv/blog/baabbanban/2015/04/27/entry-1

3. จัดวางดอกไม้ในแจกันปากกว้างที่ทำความสะอาดแล้ว

อย่าลืมว่าต้องทำความสะอาดแจกันดอกไม้ก่อนจัดช่อดอกไม้ใส่ลงไปทุกครั้งนะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่สำคัญมากเลยทีเดียว เพราะเกี่ยวข้องกับความสดของดอกไม้โดยตรง หากแจกันไม่สะอาด ดอกไม้ก็จะสกปรกได้ มีผลทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงต้องเลือกแจกันปากกว้าง นั่นก็เพื่อไม่ให้ก้านดอกไม้เบียดกันแน่นจนเกินไป ทำให้ดอกไม้ คอหัก หรือ ช้ำ ได้ค่ะ

Figure 3https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

4. จัดดอกไม้ลงในน้ำร้อน

น้ำที่ใส่ในแจกัน ต้องมีอุณหภูมิ 43 – 44 องศาเซลเซียสโดยประมาณ ให้เทน้ำลงในแจกันขณะที่น้ำร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 43 – 44 องศาเซลเซียสนะคะ จากนั้นนำไปตั้งไว้ในที่เย็นๆ สัก 1 – 2 ชั่วโมง โมเลกุลของน้ำร้อนจะเคลื่อนไหวเข้าสู่ก้านดอกไม้ได้ไวขึ้น ในขณะที่ดอกไม้กำลังขาดน้ำ เพราะลมเย็นภายในห้อง จะช่วยยืดอายุดอกไม้ให้แข็งแรง คงทนยาวนานขึ้นค่ะ

Figure 4https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

5. เด็ดใบล่างๆ ทิ้งให้หมด

เพื่อยืดอายุดอกไม้ให้ยาวนานขึ้น ให้เด็ดใบด้านล่างที่ต่ำกว่าระดับน้ำในแจกันทิ้งให้หมดค่ะ หากปล่อยใบไม้แช่อยู่ในน้ำ จะทำให้เน่าเร็วขึ้น และยังทำให้ดอกไม้เน่าและเฉาอีกด้วย

Figure 5https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

6. เปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวัน

การเปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ทุกวันจะทำให้ดอกไม้สดยาวนานขึ้น ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ อย่าลืมทำความสะอาดให้เศษคราบต่างๆ ออกไปให้หมดก่อนแล้วจึงค่อยเติมน้ำ เมื่อเปลี่ยนน้ำแล้ว คุณสามารถใส่ยาแอสไพรินสัก 2 – 3 เม็ดลงไปในแจกันด้วยก็ได้เช่นกัน จะช่วยให้น้ำยังคงสะอาดและช่วยฆ่าแบคทีเรียในแจกันได้อีกด้วย

Figure 6https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

7. ตัดปลายก้านในมุม 45 องศาเสมอ

อย่าเผลอตัดปลายก้านดอกไม้ตรงๆ นะคะ ให้ใช้มีดคมๆ ตัดปลายก้านดอกไม้ในมุม 45 องศาเสมอ วิธีนี้จะช่วยให้ดอกไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดีขึ้น สำหรับดอกไม้ที่บอบบางมากๆ อย่าง ดอกกุหลาบ วิธีการตัดปลายก้านที่ดีที่สุด คือใ ห้ตัดในน้ำ เพราะดอกกุหลาบจะอ่อนไหวง่ายต่อฟองอากาศและสิ่งสปกซึ่งจะขัดขวางการดูดซึมน้ำที่จะเข้าไปหล่อเลี้ยงในก้านและส่งต่อไปยังดอก ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วมากยิ่งขึ้น

Figure 7https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

8. จัดวางดอกไม้ให้ห่างจากแสงแดด ความร้อน และ ผลไม้

ควรจัดวางดอกไม้ให้ห่างจากแสงแดด ความร้อน เพราะจะทำให้ดอกไม้เฉา อีกทั้งคุณควรหลีกเลี่ยงการวางดอกไม้ไว้ใกล้ๆ ผลไม้สด เพราะ ผลไม้จะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาทีละนิด ซึ่งมีผลทำให้ดอกไม้เฉาเร็วขึ้นได้

Figure 8https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

9. เด็ดดอกที่เหี่ยวแล้วทิ้งให้เร็วที่สุด

กำจัดดอกที่ตายแล้ว หรือ โรยแล้วออกจากแจกันให้ไวที่สุดทันทีที่เห็น เพราะนอกจากผลไม้แล้ว ก๊าซเอทิลีน จะถูกปล่อยจาก ต้นไม้ ดอกไม้ที่เหี่ยวโรยด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีผลต่อดอกอื่นๆ ที่ยังสวยสดงดงามอยู่ให้โรยราตามๆ กันไปด้วยค่ะ

Figure 9https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

10. จัดวางในที่ที่เหมาะสม

ทริคในข้อสุดท้ายต้องขอบอกเลยว่า ใจเย็น ๆ ค่ะ อย่าเพิ่งดีใจจนรีบหยิบดอกไม้ไปแต่งตามมุมต่าง ๆ ในบ้านโดยไม่ดูทิศทางแสงและลม เพราะดอกไม้ที่อยู่ในช่อไม่แข็งแรงเท่าดอกไม้ที่อยู่ในต้นของมันเอง ดังนั้นต้องดูให้ดีก่อนว่าแสงและลมลอดเข้าทางไหนบ้าง ที่สำคัญหมั่นดูแล ตัดแต่งกิ่งก้าน และเติมน้ำใส่แจกันด้วยนะคะ

Figure 10https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/30799.html

เป็นอย่างไรกันบ้างคะการจัดแจกันดอกไม้และการต่ออายุดอกไม้ที่ทางเราแนะนำไป หากใครที่อยากลองจัดดอกไม้เองดูบ้างก็อย่าเพิ่งท้อไป ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้และพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ การจัดดอกไม้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณอยากลอง ก็ลงมือทำได้เลยค่ะไม่ต้องกังวล รับรองผลงานของคุณต้องสวยงามไม่แพ้มืออาชีพอย่างแน่นอน